จากคลิปที่เป็นข่าวในช่วงหลายวันก่อนหน้านี้ที่มีรถกระบะคันหนึ่งขับมาทางตรง แล้วกำลังมีรถเก๋งสีขาวเลี้ยวขวาข้ามถนนมา แต่ว่าคำพูดวรรคทองสำคัญของคนขับรถกระบะที่กลายเป็นไวรัวคื “กูไม่เบรกนะ” ก่อนที่จะพุ่งชนอย่างตั้งใจ แต่สุดท้ายเป็นรถกระบะเองที่กลิ้งหงายท้องล้อชี้ฟ้า
.
ไม่รู้จะอวยยศหรือ สนน. ดีที่เหล่าคนจริงสิงห์ท้องถนน กับเป้าหมายมีไว้พุ่งชนแบบไม่ยั้ง พร้อมกับพูดจาท้าทายความประมาทแบบนี้ เพราะคลิปจากกล้องหน้ารถนี่แหละดันกลายเป็นหลักฐานมัดตัวเองเสียอย่างนั้นว่า พฤติการที่ทำนั้น เป็นความตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ
.
เพราะผลที่ตามาคือนอกจากจะถูกดำเนินคดีแล้ว ประกันรถคันที่พุ่งชนนั้นอาจไม่คุ้มครอง ไม่จ่ายค่าซ่อมให้ด้วย
.
ในทางกฎหมายชัดเจนเลยว่า คำพูด “กูไม่เบรกนะ ไม่เบรกนะ ” ถือว่าเป็นการยืนยันการทำผิดของตนเอง เนื่องจากรถกระบะที่มาทางตรง คึกคะนองใช้ความเร็วมากเกินไป
.
ส่วนรถคู่กรณีที่ขับเลี้ยวข้ามถนน อาจเข้าข่ายอุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทร่วม เพราะเลี้ยวข้ามถนนเข้าซอยโดยไม่ระมัดระวังให้ดี ฉะนั้นกรณีนี้มองได้ว่าเป็นความประมาทร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย
.
ซึ่งเดี๋ยวต้องรอการสอบสวนของเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม
.
แต่ที่น่าจะชี้ชัดได้เลยก็คือ ฝั่งของประกันอุบัติเหตุ จากข้อมูลคือรถกระบะได้ทำประกันภัยชั้น 1 เอาไว้ ส่วนฝ่ายเก๋งทำประกันแบบ 3 บวก หากคู่กรณีที่เป็นรถเก๋งมีการใช้คลิปดังกล่าว แจ้งความผิดกับทางฝ่ายรถกระบะ ว่ามีเจตนาในการพุ่งชน แม้กระบะจะเป็นประกันภัยชั้น 1 ทางประกันก็จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
.
พูดง่ายๆ คือ ประกันชั้น 1 ก็ไม่ช่วยอะไร เพราะถือว่ามีเจตนาทำให้เกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นรถกระบะอาจไม่ได้รับการดูแลจากประกันในการซ่อมรถให้ แต่จะซ่อมให้กับคู่กรณีแทน
.
เคราะห์ดีว่าไม่มีใครบาดเจ็บสาหัส หรือเสียชีวิต ไม่อย่างนั้นอาจจะโดนข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อันนี้หนักกว่าอีก จึงอยากจะเตือนพวกคนจริง สายซิ่ง สายซ่าเอาไว้ว่า อยู่บนถนนก็หัดเคารพกฎจราจร และมีน้ำใจแก่เพื่อนร่วมทาง อย่าคิดว่าถนนเป็นของฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้ เพราะเวลาเกิดอะไรขึ้นมา มักไม่เกิดผลดีกับใครเลย
.
ขอเสริมอีกนิดว่า หากมีการแจ้งความฟ้องร้องกันจริง และใช้คลิปเสียงนี้ยืนยัน การกระทำลักษณะนี้อาจจะตีความได้ว่าไม่ได้เกิดจากความประมาท แต่เป็นความตั้งใจจะทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๘ วางหลักไว้ว่า “ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่ เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกินหก 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ได้อีกด้วย แต่ต้องขึ้นอยู่กับการสรุปสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
.
 ปัญหาเกี่ยวกับคดีความอยากได้คำตอบเพื่อหาทางออก ปรึกษากับทนายความของเราแบบรวดเร็วทันใจ ไม่ว่าจะคดีเล็ก หรือคดีใหญ่ สามารถ inbox มาปรึกษาได้ ทนายออนไลน์ยินดีรับคำปรึกษาจากทุกท่าน