ถูกขู่ว่าจะแฉความลับเพือรีดไถเงิน จนผู้เสียหายต้องยินยอม แม้เป็นเรืองผิดศีลธรรม ผู้ขมขู่ก็มีความผิด
ถูกขู่ว่าจะแฉความลับเพือรีดไถเงิน จนผู้เสียหายต้องยินยอม แม้เป็นเรืองผิดศีลธรรม ผู้ขมขู่ก็มีความผิด

ถูกขู่ว่าจะแฉความลับ
เพือรีดไถเงิน จนผู้เสียหายต้องยินยอม
แม้เป็นเรืองผิดศีลธรรม ผู้ขมขู่ก็มีความผิด
.
เคยได้ยินข่าวอยู่บ่อยๆ บนสื่อต่างๆ ว่ามีผู้เสียหายเผลอไปมีสัมพันธ์สวาทกับใครสักคนแล้ว คนๆ นั้นกลับเล่นไม่ซื่อ ถ่ายคลิปหรือถ่ายภาพระหว่างประกอบกิจ แล้วกะจะนำมาให้เป็นเครื่องมือข่มขู่ในการรีดไถเงินจากผู้เสียหาย ถ้าหากว่าไม่ยอมจ่ายเงินให้ ก็จะมีการโพสต์ลงโซเชียล แฉประจารณ์
.
ซึ่งจริงๆ แล้วเรื่องแบบนี้สามารถเกิดกับใครก็ได้ โดยเฉพาะในโลกของสังคมออนไลน์ที่สามารถนัดใครต่อใครไปมีความสัมพันธ์ทางกายได้ง่ายดายเพียงชั่วครั้งชั่วคราว
.
หลายคนเมื่อถูกข่มขู่มักยินยอมที่จะให้เงินไปเพื่อไม่ให้หลักฐานนั้นหลุดออกมาทำให้เกิดความเสียหาย หรือเสื่อมเสีย แต่ก็ไม่เคยมีสัจจะในหมู่โจร เพราะคลิปพวกนี้กลับหลุดว่อนโลกโซเชียลอยู่ดี
.
แต่ในทางกฎหมายแล้ว ทางเราแนะนำว่าอย่ายอมให้คนพวกนี้มาข่มขู่เราได้ เพราะจริงๆ แล้วมีกฎหมายคอยคุ้มครองเหยื่อ เพราะการกระทำของผู้ข่มขู่ถือว่าเป็นการ “ขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับ”
.
และถ้าการขู่ว่าจะเปิดเผยความลับนั้น ได้ทำขึ้นเพื่อข่มขืนใจให้ผู้อื่นยอมให้ หรือยอมจะให้ตน (ผู้ขู่) หรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน (ตามตัวอย่างนี้คือ เงิน)
.
และจะทำให้ผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สามเสียหายจนต้องยินยอมเช่นนั้น
.
ซึ่งกรณีนี้ ผู้กระทำจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 338ในข้อหา “รีดเอาทรัพย์” ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 2 หมื่นถึง 2 แสนบาท
.
ฉะนั้นอย่าปล่อยให้เราต้องตกเป็นเหยื่อ เพราะถ้าเรายอมเป็นเหยื่อ ยอมทำตามที่ถูกข่มขู่ เราก็จะต้องยอมไปเรื่อยๆ ไม่จบสิ้น ดังนั้นกฎหมายคุ้มครองอยู่จงใช้ให้เกิดประโยชน์
.
📌 หากมีปัญหาเกี่ยวกับคดีความแล้วอยากปรึกษาเพื่อหาทางออกกับทนายความแบบรวดเร็วทันใจ ไม่ว่าจะคดีเล็ก หรือคดีใหญ่ สามารถ inbox มาปรึกษาได้ ทนายออนไลน์ยินดีรับคำปรึกษาจากทุกท่าน