ตั้งใจขับรถปาดหน้าแล้วเบรก อาจผิดฐานเจตนาฆ่า
ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเล็งเห็นผล ศาลสั่งยึดรถได้
.
ยุคสมัยนี้คนหัวร้อนบนท้องถนนมันเยอะจริงๆ เราจึงเป็นข่าวเห็นคลิปคนขับรถปาดหน้ากัน ไม่ก็พยายามกวนเบื้องต่ำกันจนเกิดเป็นอุบัติเหตุบนท้องถนนอยู่บ่อยครั้ง สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ร่วมใช้ทาง จากความไม่ยอมกันบนทางสาธารณะ
.
เหตุการณ์ที่เจอบ่อยที่สุดก็เห็นจะเป็นการขับรถปาดหน้ากันแล้วพยายามแกล้งเบรกให้ชนท้าย ซึ่งหลายคนคิดแค่ว่าอยากจะแก้แค้นเอาคืนที่มาหยามศักดิ์ศรีตีนผีแห่งท้องถนน ต้องสอนให้รู้เสียบ้างว่าใครเป็นใคร (แล้วเอ็งเป็นใครล่ะถึงไปสอนเขา?)
.
ใครที่มีพฤติการแบบนี้ให้พึงระวังไว้ เพราะคุณอาจเข้าข่ายฐานความผิดเจตนาฆ่า หรือทำร้ายร่างกายผู้อื่นเล็งเห็นผลได้เลยทีเดียว
.
ในการขับรถในประการที่น่าจะเกิดอันตรายต่อผู้อื่นนั้น เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการจราจรทางบกอยู่แล้ว และหากรถที่ขับไปนั้นก่อความเสียหายขึ้นต่อชีวิตหรือร่างกายผู้อื่น ก็อาจมีความผิดในฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายหรือประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอัตรายสาหัสได้แล้วแต่กรณี
.
แต่หากไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการเฉี่ยวชนกัน มีความเสียหายแค่ตัวรถก็จะเป็นเรื่องทางแพ่งที่ต้องวินิจฉัยหาฝ่ายที่ประมาทมากกว่าเพื่อกำหนดตัวผู้ต้องชดใช้ค่าเสียหายกันต่อไป เนื่องจากไม่มีกฎหมายอาญาฐานประมาททำให้เสียทรัพย์นั่นเอง
.
แต่อย่างไรก็ดี ในการขับรถอย่างไม่ระวังนั้น ก็อาจเป็นเจตนาฆ่าหรือทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยเล็งเห็นผลได้เช่นกัน ดังนี้
.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1003/2512 จำเลยขับรถแซงรถผู้เสียหายขึ้นไปด้วยความเร็ว แล้วหักพวงมาลัยให้ท้ายรถจำเลยปัดหน้ารถผู้เสียหายจนรถยนต์ผู้เสียหายแฉลบไปจนเกือบตกถนนนั้น หากถนนตรงนั้นเป็นที่สูงหรืออยู่หน้าผาสูงชันย่อมเล็งเห็นผลได้ว่า ถ้ารถคว่ำลงไปแล้วทั้งรถและคนย่อมถึงซึ่งความพินาศ เห็นผลได้ชัดว่าผู้เสียหายย่อมได้รับอันตรายถึงชีวิต ดังนั้น แม้รถยนต์ผู้เสียหายจะไม่ตกถนนลงไป จำเลยก็มีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น และไม่จำต้องคำนึงถึงว่าคนนั่งภายในรถจะมีตัวรถป้องกันหรือไม่ แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าถนนตรงที่เกิดเหตุสูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายขับรถอยู่ในอัตราความเร็ว 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
.
เมื่อถูกจำเลยเอาท้ายรถปาดหน้ารถผู้เสียหายๆก็แตะเบรครถหยุดทันที และเครื่องดับเอง ล้อรถด้านซ้ายยังห่างขอบถนนอีกราว 1 ศอก ผู้เสียหายไม่ได้รับบาดเจ็บอันใด จึงถือว่าจำเลยมีเจตนาพยายามฆ่าผู้เสียหายให้ถึงตายยังไม่ได้ เพราะถึงหากรถยนต์ผู้เสียหายจะตกลงไปโดยผู้เสียหายนั่งอยู่ภายในตัวรถก็ไม่แน่ว่าจะถึงตาย แต่ก็พอคาดหมายได้ว่าอย่างน้อยผู้เสียหายย่อมได้รับการกระทบกระแทกเป็นอันตรายถึงบาดเจ็บซึ่งจำเลยก็น่าจะเล็งเห็นผลอันจะเกิดแก่ผู้เสียหายได้ดังนี้ จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามทำร้ายผู้เสียหายเป็นอันตรายถึงบาดเจ็บตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295,80
.
หมายเหตุ คดีนี้ ศาลวินิจฉัยว่าถนนที่เกิดเหตุนั้นเป็นถนนยกสูงจากพื้นนาประมาณ 1 เมตร แม้หากผู้เสียหายถูกจำเลยปาดจนเสียหลักตกลงไปนอกขอบถนนก็ไม่น่าจะเป็นอันตรายจนถึงแก่ความตายได้ จึงได้วินิจฉัยว่าจำเลยพยายามทำร้ายผู้เสียหาย โดยนำพื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุมาประกอบ
แต่หากสถานที่เกิดเห็นเป็นถนนบริเวณเชิงเขา หรือเนินเขา หรือข้างขอบเหวนั้น หากผู้เสียหายตกลงไปก็อาจถึงแก่ความตายได้ การกระทำดังกล่าวก็ย่อมต้องเป็นการเจตนาฆ่าผู้เสียหายอย่างแน่นอน
.
ส่วนกรณีขับรถบังเส้นทาง และแกล้งเบรคในระยะกระชั้นชิดนั้น มีคำวินิจฉัยไว้ดังนี้
.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2255/2522 จำเลยขับรถปิดเส้นทางไม่ยอมให้ผู้ตายซึ่งขับรถตามหลังมาแซงขึ้นหน้า เมื่อรถโดยสารประจำทางแล่นสวนทางมา จำเลยก็แกล้งเบรคให้รถหยุดในทันที การกระทำเช่นนี้จำเลยย่อมเล็งเห็นได้ว่าผู้ตายต้องหักรถหลบไปทางขวาและชนกับรถโดยสารนั้น ซึ่งจำเลยย่องเล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยได้ว่าจะมีผู้ได้รับอันตรายบาดเจ็บและตายเกิดขึ้นจากเหตุที่รถชนกันนั้น ฉะนั้นเมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายด้วยผลแห่งการกระทำของจำเลยดังกล่าว จงได้ชื่อว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
.
หากในกรณีที่เกิดการชนท้ายกันจากความตั้งใจขอคันหน้าแต่ไม่ถึงขั้นบาดเจ็บหรือตกถนน และมีหลักฐานยืนยันการกระทำผิด ซึ่งมาจากการที่คู่กรณีขับรถโดยประมาท คันที่ชนท้ายก็ถือว่าเป็นฝ่ายถูก และต้องได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัยตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ รวมถึงการชดใช้จากคู่กรณีด้วย และยังเข้าข่ายเป็นฝ่ายผิด ประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 420 มีหลักว่า ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย ให้คนอื่นเสียหาย ต้องใช้ค่าเสียหาย ดังนั้น ใครฝ่าฝืนกฎหมาย จึงเข้าข่ายเป็นฝ่ายผิด เพราะการฝ่าฝืนกฎหมายครับ
.
ฉะนั้นจำไว้ว่าถ้าตั้งใจทำให้เกิดอุบัตติเหตุ ยังไงก็ผิด แล้วเดี๋ยวนี้กล้องหน้ารถชัดระดับ HD ยังไงก็ตามตัวเจอ ไม่มีพลาด อย่าให้ศักดิ์ศรีบ้าบอมาทำให้ชีวิตต้องขึ้นโรงขึ้นศาลโดยใช่เหตุ บอกเลยว่าถ้าศาลพิจารณาว่าพยายามฆ่าขึ้นมา ไม่คุ้มแน่นอน