ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ฟ้องเกรียนคีย์บอร์ดซ่า คอมเมนต์หมิ่น ‘ล้มบอล’ ลั่นนี่เป็นเคสตัวอย่าง
ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ฟ้องเกรียนคีย์บอร์ดซ่า คอมเมนต์หมิ่น 'ล้มบอล' ลั่นนี่เป็นเคสตัวอย่าง

ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ฟ้องเกรียนคีย์บอร์ดซ่า
คอมเมนต์หมิ่น ‘ล้มบอล’ ลั่นนี่เป็นเคสตัวอย่าง
.
ทนายเคยเตือนในบทความก่อนๆ หน้าแล้วว่า การจะไปคอมเมนต์อะไรบนโซเชียล แล้วส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงบุคคลที่กล่าวหา โดยเฉพาะกับบุคคลสาธารณะ จงระวังจะได้ขึ้นโรงขึ้นศาลขึ้นมา เพราะว่าซ่าและมือลั่น (โดยตั้งใจ) ของตัวเอง
.
นี่ถือเป็นกรณีตัวอย่างของการที่เกรียนคีย์บอร์ดไปคอมเมนต์อะไรถึงผู้อื่นแบบเสียๆ หายๆ ด้วยความคะนอง จนสุดท้ายความคะนองก็ย้อนกลับมาหาตัวเอง ซึ่งเกิดกับ “เดอะตุ๊ก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน” อดีตศูนย์หน้านักฟุตบอลทีมชาติไทยชื่อดัง ที่เจอชาวเน็ตที่ใช้ชื่อเฟสบุ๊กว่า “Songchai Pattarasilapom” (Sta boy) โพสต์ข้อความเปิดเป็นสาธารณะให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงทำนองว่า
.
“ไม่เอาปิยะพงษ์ แน่นอน ได้แชมป์ไทยลีก ตอนคุมทีมสโมสรทหารอากาศ ถ้าไม่มีเรื่อง(ล้มบอล)…..ก็ไม่ได้หรอก”
.
ซึ่งเพจที่ไปคอมเมนต์นั้นเป็นเพจเกี่ยวกับฟุตบอลแล้วมีผู้ติดตามมากว่า 7 แสนคน และผู้ที่มาเห็นคอมเมนต็ดังกล่าวก็คือ “แตงโม พงษ์พิสุทธิ์ ผิวอ่อน” ลูกชายของเดอะตุ๊ก และได้ตอบคอมเมนต์กลับไปว่าจะฟ้องร้องกลับแน่นอน ในข้อหาหมิ่นประมาท และไม่รับคำขอโทษใดๆ รับค่าเสียหายเป็นเงินเท่านั้น
.
ซึ่งหลังจากที่แตงโมได้คอมเมนต์ตอบกลับไป ผู้ที่โพสต์ก็ส่งข้อความเข้ามาใน Inbox เฟสบุ๊กส่วนตัวของแตงโม เพื่อบอกว่าตัวเองได้ทำการลบคอมเมนต์ไปแล้ว แต่นั่นก็ไม่ทันกาล เพราะได้มีการแคปหลักฐานเพื่อฟ้องร้องอย่างแน่นอน
.
ล่าสุดวันนี้ 9 สิงหาคม ทั้งคู่และทนายความ ได้เดินทางมาเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคู่กรณีที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งข้อความที่จำเลยโพสต์นั้นล้วนแล้วเป็นเท็จ ทำให้ประชาชน หรือบุคคลทั่วไปเข้าใจว่า โจทก์เป็นบุคคลที่มีเรื่องเสื่อมเสียในวงการฟุตบอลของประเทศไทย โจทก์ไม่มีความสามารถและเหมาะสมที่จะเป็นโค้ชหรือผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย ซึ่งข้อความดังกล่าว โจทก์ไม่เคยเกี่ยวข้องหรือมีพฤติการณ์ในการล้มบอลที่จำเลยกล่าวอ้าง
.
รวมทั้งตัวโจทก์เองที่ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ชื่อเสียงของโจทก์ที่กระทำมาตลอดที่เป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทย เหตุเกิดที่แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.และทั่วราชอาณาจักร โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย
.
ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.1873/2564 และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์วันที่ 15 พ.ย.นี้ เวลา13.30 น.
.
ทางด้าน แตงโมกล่าวว่า จริงๆ แล้วคุณพ่อเป็นคนสบายๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ส่วนตัวแตงโมนั้น ยุคที่คุณเล่นฟุตบอลก็เจอเรื่องราวแบบนี้มาตลอดระยะเวลาเกือบ 30 ปี ผมรู้สึกว่าเรื่องราวผ่านมานานแล้ว คุณพ่อก็เป็นคนที่สร้างชื่อเสียงและรับใช้ประเทศชาติ ก็ไม่อยากให้ใครกล่าวให้ร้ายคุณพ่อ สมัยก่อนผมเป็นเด็ก เจอเรื่องราวแบบนี้มาเยอะแล้ว แต่ทำอะไรไม่ได้ เจอเพื่อนล้อ เพื่อนว่าและโดนเพื่อนบูลลี่ แต่ตอนนี้เมื่อผมโตแล้วก็ทราบขั้นตอนว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร จึงขอใช้สิทธิทางกฎหมาย แต่ฟ้องเพียงคนเดียวถือว่าน้อยมาก เพื่อให้เป็นตัวอย่างว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใคร
.
ส่วนเรื่องค่าเสียหายจะให้ทนายความดำเนินการต่อไป อาจจะต้องดำเนินการฟ้องแพ่งด้วย
.
นี่แหละคือบทเรียนสำคัญของพวกเกรียนคีบอร์ด อย่าคิดว่าบุคคลสาธารณะจะปากเสีย มือเสียวิจารณ์อะไรได้โดยปราศจากความจริง เพราะไม่เช่นนั้นโดนคดีขึ้นมา จะมาร้องห่มร้องไห้ หงายการ์ดรู้เท่าไม่ถึงกาลไม่ได้ ฉะนั้นจงพึงระลึกเสมอว่า ทุกคำพูด ทุกข้อความ มีราคาของมันเสมอ และราคาที่ต้องจ่ายนั้นมันก็แพงมากเสียด้วย จงคิดก่อนพิมพ์ ก่อนโพสต์ หรือก่อนพูด ถ้าไม่อยากโดนฟ้องร้องภายหลัง