ยอมให้ สามี หรือ ภรรยา มีชู้ ทั้งๆ ที่รู้แก่ใจ จะมาฟ้องหย่าฐานคบชู้…ไม่ได้!
ยอมให้ สามี หรือ ภรรยา มีชู้ ทั้งๆ ที่รู้แก่ใจ จะมาฟ้องหย่าฐานคบชู้...ไม่ได้!

ยอมให้ สามี หรือ ภรรยา มีชู้ ทั้งๆ ที่รู้แก่ใจ จะมาฟ้องหย่าฐานคบชู้…ไม่ได้!
.
ผัวน้อย เมียน้อย หนามยอกอกที่ทำลายความเป็นครอบครัวของคู่สามีภรรยา จากความไม่รู้จักพอของคน
.
แต่การจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบุคคลที่เรียกว่าชู้นั้น เราต้องแน่ใจก่อนว่า เราเป็นสามีหรือภรรยา ที่ชอบด้วยกฎหมาย นั่นก็คือมีทะเบียนสมรส พร้อมกับพยายหลักฐานต่างๆ ที่ต้องครบถ้วนพร้อมไฟว์กันในชั้นศาล เพื่อให้ศาลเชื่อในพยานและหลักฐานว่า ทั้งคนของเราที่ไปเล่นชู้กับใครอีกคนนั้นเป็นเรื่องจริงและมีน้ำหนักมากเพียงพอ และผู้ที่เป็นชู้ก็จะต้องรู้ด้วยว่า คนที่ตัวเองไปเล่นชู้ด้วยนั้นมีสามีหรือภรรยาอยู่แล้ว และผู้เป็นสามีหรือภรรยาต้องไม่เคยยินยอมหรือเห็นดีเห็นงามกับการไปมีชู้ด้วย
.
แต่ถ้าหากว่า สามีหรือภรรยา ดันไปรู้เห็นเป็นใจ หรือยินยอมพร้อมใจให้อีกฝ่ายหนึ่งมีชู้ หรือมีผัวนอน เมียน้อย จะมาฟ้องหย่ากันทีหลังในเรื่องการคบชู้ไม่ได้ เพราะถือว่าการยินยอม หรือรู้เห็นเป็นใจต่อการมีชู้ ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดที่ต้องการฟ้องหย่าจะมายกข้ออ้างเอาเหตุนั้นมาฟ้องไมได้อีกต่อไป
.
เพราะถือว่าทั้งคู่ต่างรู้เห็นเป็นใจ กันอยู่แล้วเท่ากับว่ายินยอมนั่นเอง ก็คือรู้มานานแล้วแต่ก็ไม่ว่าอะไร ให้ทั้งคู่คบชู้ ไปไหนมาไหน อุปการะเลี้ยงดู ให้ความช่วยเหลือ หรือการกระทำอื่นใดในลักษณะที่ไม่เป็นปฏิปักต่อกัน ตามมาตรา 1516 (1) หรือให้ผู้อื่นกระทำการตามวรรคสองสามีหรือภรรยานั้นจะฟ้องหย่าเรียกค่าตอบแทนไม่ได้
.
ฉะนั้นเป็นชู้มันไม่ดี ไม่ว่าจะยินยอมหรือไม่ยินยอม เพราะมันมีผลต่อทางกฎหมายทั้งหมด ฉะนั้นรักเดียวใจเดียว ผัวเดียวเมียเดียว จะได้ไม่เกิดปัญหา แต่ถ้าจะเลิกรากันก็ต้องให้ถูกต้องตามกระบวนการด้วย